เพ็ชรชุมพวงคอมพิวเตอร์

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

VISA จับมือสถาบันการเงินทั่วโลก เปิดบริการชำระเงินผ่านมือถือ


VISA จับมือสถาบันการเงินทั่วโลก เปิดบริการชำระเงินผ่านมือถือ


visa-wave-and-pay
VISA ได้ประกาศความร่วมมือกับสถาบันทางการเงินชั้นนำทั่วโลกสำหรับบริการชำระเงิน ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยกลุ่มธนาคาร BBVA และ Cuscal คือสถาบันในลำดับต้น ๆ ที่เปิดให้บริการแอพพลิเคชั่นการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือสำหรับระบบแอนดร อยด์ นอกจากนั้นธนาคาร Banco do Brazil (BB), PNC Bank, N.A., US Bank และ Wells Fargo มีแนวโน้มที่จะเปิดให้บริการเช่นนี้ในอนาคตอันใกล้ใน การใช้บริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือนี้ผู้บริโภคเพียงแค่ดาวน์โหลดแอ พพลิเคชั่นของสถาบันทางการเงินเหล่านั้นจาก Google Play เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนการลงทะเบียนแบบครั้งเดียวแล้วลูกค้าของบรรดา สถาบันทางการเงินที่เข้าร่วมจะสามารถชำระเงินในร้านค้าได้ด้วยบัญชีวีซ่าโดย นำโทรศัพท์ในระบบแอนดรอย์แตะเหนือเครื่องอ่าน ความสามารถเหล่านี้คือส่วนสำคัญของแพลตฟอร์มในระบบ Visa Digital Solution ที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่การชำระเงินและมอบความปลอดภัยสำหรับเครื่องมือและ อุปกรณ์สวมใส่ที่เชื่อมต่อผ่านระบบอินเตอร์เน็ต
แซม เชลกเกอร์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านดิจิตอลโซลูชั่นของวีซ่า กล่าวว่า “ปี 2015 คือปีแห่งระบบการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือที่รวดเร็วและปลอดภัยโดยมีพื้น ฐานจากการขยายตัวของเทคโนโลยีวีซ่าทั่วโลก เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่แพลตฟอร์ม Digital Solutions จากวีซ่าได้เข้าถึงตลาดได้ในวงกว้างผ่านการใช้งานบนเครื่องมือที่หลากหลาย และสร้างปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ประสบการณ์การค้าขายที่ปลอดภัย รวดเร็วและน่าพึงพอใจ
แพลตฟอร์ม Visa Digital Solutions
ภายในงาน Mobile World Congress 2014 ในปีที่ผ่านมา VISA ได้เปิดตัวเทคโนโลยีชิ้นใหม่ที่ทำให้บรรดาสถาบันทางการเงิน พ่อค้าและนักพัฒนาสามารถนำแอพพลิเคชั่นการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือมาใช้ งานบนอุปกรณ์แอน-ดรอยด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวีซ่าสามารถมอบการให้บริการของโฮสต์การ์ดอีมูเลชั่น (HCE) ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่สำหรับอุปกรณ์สื่อสารในระบบแอนดรอยด์ในการใช้ เทคโนโลยี NFC
การเปิดตัวในวันนี้เป็นบทพิสูจน์ถึงความสามารถในการปรับเปลี่ยนของแพ ลตฟอร์ม Digital Solutions จากวีซ่า ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มของเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK) และ Visa Token Service ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่จะมาแทนที่ข้อมูลการชำระเงินบนบัตรพลาสติก ที่ประกอบไปด้วยเลขบัญชีจำนวน 16 หลัก วันหมดอายุและรหัสความปลอดภัยด้วยชุดของตัวเลขที่สามารถอนุมัติการชำระเงิน โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบัญชี Visa Token Service เป็นเทคโนโลยีที่ปูรากฐานสำหรับแอปเปิล เพย์, โฮสต์การ์ดอีมูเลชั่น (HCE), และแอพพลิเคชั่นสำหรับการชำระเงินแบบดิจิตัลอื่นๆ รวมถึงการใช้เป็นตัวอย่างในการแนะนำนวัตกรรมนี้เข้าสู่ตลาดเพื่อให้เป็นที่ รู้จักมากขึ้น
จอร์แดน แมคคีย์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก 451 Research กล่าวว่า “โฮสต์การ์ดอีมูเลชั่น (HCE) ได้สร้างนวัตกรรมแก่ระบบนิเวศการชำระเงินของแอนดรอยด์รวมถึงเพิ่มการเข้าถึง เทคโนโลยี NFC และเป็นการปูทางให้เกิดความรวดเร็วที่เพิ่มขึ้นของระบบการค้าผ่านโทรศัพท์ มือถือ เทคโนโลยี NFC จะมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดการแพร่หลายของระบบชำระเงินผ่านโทรศัพท์ มือถือในร้านค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยโครงการที่ 451 Research จะมีโอกาสได้รับผิดชอบนั่นจะมีมูลค่าสูงถึง 570.1 พันล้านดอลล่าห์สหรัฐภายในปี 2018”
แอนเดรีย เลิฟนีย์ ผู้จัดการทั่วไปด้านผลิตภัณฑ์และบริการของ Cuscal กล่าวว่า “เราได้ประสบการณ์ที่ดีในการร่วมงานกับวีซ่าเพื่อเปิดตัวโซลูชั่นด้านการ ชำระเงินที่บนระบบ HCE ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในประเทศออสเตรเลีย มีผู้ใช้เทคโนโลยีการชำระเงินแบบไร้สัมผัสสูงสุดในโลกและเราคาดหวังว่าการ ใช้งานของระบบ HCE จะมียอดที่สูงขึ้นในปีนี้ เรามอบทางเลือกใหม่ที่คุ้มแก่การลงทุนและเป็นนวัตกรรมการชำระเงินในระบบ ดิจิตอลแบบใหม่ล่าสุดให้แก่ลูกค้า และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะเสาะหานวัตกรรมการชำระเงินใหม่ๆมามอบให้แก่ลูกค้า เพื่อให้การจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันง่ายและสะดวกรวดเร็วขึ้น”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น