เพ็ชรชุมพวงคอมพิวเตอร์

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ข่าวสารนะครับ !! ร่วมกิจกรรมรับของรางวัลมากมาย อ่านรายละเอียดด้านในครับ แบบว่าอยากแจกอะครับ ^^(กิจกรรมเดิมขยายเวลา ถึง 30 กันยา 58 นะครับ (ของรางวัลอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่มูลค่าราคาเท่าเดิมครับ)

Posted by เพ็ชรชุมพวงคอมพิวเตอร์ on 5 กรกฎาคม 2015

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Power Bank คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร








Power Bank เป็นอุปกรณ์ช่วยชาร์จมือถือ แท็บเล็ต เครื่องเล่น mp3 หรืออุปกรณ์อีเล็คทรอนิคที่ใช้แบตเตอรี่ ซึ่งไม่ใช่เครื่องที่ใช้ไฟมากนัก เพื่อชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ กรณีออกทำงานนอกสถานที่ ท่องเที่ยว หรือไปยังสถานที่ที่ไม่มีที่ชาร์จแบตเตอรี่ ก็สามารถชาร์จมือถือ แท็บเล็ต ผ่าน Power Bank ได

ปัจจุบันนิยมใช้งานมือถือสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตกันมาก และเน้นการใช้แอพหรือบริการต่างๆ ที่เชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เน็ต จึงทำให้อุปกรณ์พกพาเหล่านี้ใช้พลังงานมากขึ้น แบตเตอรี่หมดเร็ว Power Bank จึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Power Bank รูปร่างหน้าตาแบบต่างๆ

สำหรับ Power Bank จะมีรูปร่างหน้าตาตามแต่การออกแบบ ทั้งแบบแท่ง ทรงกลม สี่เหลี่ยม สีสัน หน้าตา ให้เลือกซื้อเลือกใช้ตามต้องการ


Power Bank ขนาดต่างๆ

อุปกรณ์ช่วยชาร์จแบตเตอรี่หรือ Power Bank จะมีหลายขนาดความจุของเซลล์เก็บข้อมูลให้เลือกใช้ โดยมีหน่วยเป็น mAh หรือมิลลิแอมแปร์ต่อชั่วโมง ตัวอย่างขนาดความจุแบบต่างๆ เช่น

จะเลือกซื้อขนาดความจุเท่าไร

ต้องดูอุปกรณ์ของเรา มือถือ แท็บเล็ต ว่ามีความจุแบตเตอรี่เท่าไหร่ เช่น ใช้ iPhone 5s ความจุแบตเตอรี่ 1560 mAh จะต้องเลือก Power Bank ที่มีความจุมากกว่าแบตเตอรี่ของ iPhone 5s ประมาณ 2-3 เท่าขึ้นไป หรือ 1560 x 3 = 4680 mAh ขึ้นไป เพื่อให้ชาร์จได้ 2-3 รอบ
ตัวอย่างความจุที่เหมาะสมเช่น 5200 mAh ทำไมต้องเลือกมากขนาดนี้ เพราะตัว Power Bank ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ จะสามารถจ่ายไฟได้เพียง 65-70% ของความจุจริงเท่านั้น
การเลือก Power Bank ความจุ 5200 mAh จึงใช้งานได้จริงเพียง 5200 x 65% = 3380 mAh หากเอาไว้ชาร์จ iPhone 5s ความจุ 1560 mAh ก็จะชาร์จได้ประมาณ 3380 หาร 1560 = 2.1 ครั้งเท่านั้น หรือ ชาร์จ iPhone 5s จนแบตเตอรี่เต็ม 100% ได้ 2 ครั้ง ส่วนครั้งที่ 3 ชาร์จได้ประมาณ 10% กว่าๆ เท่านั้นเอง
Power Bank ยี่ห้อแบรนด์เนมและราคาถูกจากจีน อุปกรณ์อีเล็คทรอนิคส่วนใหญ่จะผลิตจากจีน ทั้งของมียี่ห้อที่มีกระบนการผลิต และใช้วัสดุที่ดีมีคุณภาพ ใช้งานได้นาน และ Power Bank ราคาถูก ซึ่งออาจจะเก็บประจุได้มาก แต่ใช้ได้ไม่นาน
ตัวอย่างยี่ห้อดีๆ มีคุณภาพไว้ใจได้เช่น
Sanyo
Sony
Energizer

Power Bank ของแท้ของปลอม

อุปกรณ์ประเภทนี้ มีของปลอมเยอะมาก ราคาประหยัดกว่า แต่สามารถหลอกขายได้ในราคาสูงเท่าของแท้ การเลือกซื้อมาใช้งานจึงจำเป็นต้องศึกษาให้ดี ซึ่งปัจจุบันการหาข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เหล่านี้ ทำได้ง่าย เพราะใน Google มีทุกอย่างที่เราอยากจะรู้ เพียงแค่พิมพ์ ชื่อยี่ห้อ รุ่นของ Power Bank ตามด้วย คำว่า ปัญหา หรือ ทดสอบ หรือ รีวิว หรือ ของปลอม ของแท้ เป็นต้น

การเลือกซื้อมาใช้งาน

หากต้องการใช้งานยาวๆ จึงควรเน้นยี่ห้อดี มีคุณภาพเข้าไว้ ซึ่งปัจจุบันเราสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นที่ต้องการได้ไม่ยาก ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง ดีไม่ดีอย่างไร ใน Google มีคำตอบ
การซื้อ Power Bank จากร้านต่างๆ การซื้อจากร้านที่ไว้ใจได้ และมีสาขาจำนวนมาก ตลอดจนการรับประกันการใช้งาน ก็จะสะดวกหากมีปัญหา หลายๆ ร้าน สามารถสั่งซื้อได้ทางอินเตอร์เน็ต หรือร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่น่าเชื่อถือใกล้บ้านท่าน ร้านของเราก็สามารถสั่งซื้อได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อพร้อมประกันนะครับ www.pchcomputer.net (เพ็ชรชุมพวงคอมพิวเตอร์)


อุปกรณ์ช่วยชาร์จแบตเตอรี่มือถือ เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน การเลือกซื้อมาไว้ใช้งาน ก็สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เพราะอุปกรณ์รอบๆ ตัวเรา นับวันก็มีแต่อุปกรณ์อีเลคทรอนิคที่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ เมื่อต้องออกนอกบ้าน ที่ทำงาน ไม่มีที่ชาร์จก็ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เหล่านี้
ดังนั้นการเลือกอุปกรณ์ที่ดี มีความจุแบตเตอรี่สูง ใช้งานได้เพียงพอต่อความต้องการจึงเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราจะสามารถใช้ประโยชน์ไปได้อีกนานอย่างน้อย ก็ 2-3 ปีี ขึ้นไป สำหรับยี่ห้อดีๆ คุณภาพเซลล์เก็บประจุดีๆ

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สาย LAN หรือ สาย UTP คืออะไร และข้อแตกต่างระหว่าง CAT5E กับ CAT6 เป็นอย่างไร




สาย LAN หรือ สาย UTP คืออะไร

UTP ย่อมาจาก UNSHIELD TWISTED PAIR ซึ่งถ้าแปลตรงตัวความหมายของมันก็คือ สายตีเกลียวที่ไม่มีตัวป้องกัน เรามาทำความรู้จักกับสาย UTP CABLE กันเลยดีกว่าครับ
UTP CABLE ที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์คือ COAXIAL CABLE, UTP CAT5, UTP CAT5e CABLE, UTP CAT6 CABLE และ UTP CAT7 CABLE ซึ่งขีดความสามารถในการใช้งานก็จะแตกต่างกัน

1. COAXIAL CABLE คือ สายทองแดงที่นำมาใช้ในระบบ LAN ที่มีความเร็วที่ต่ำ MAXIMUM ของ SPEED จะอยู่ที่ 10Mbps ส่วนมากใช้ในระบบ BUS

2. UTP CAT5 คือสายทองแดงตีเลียวที่ใช้ในระบบ LAN ที่มีความเร็วปานกลาง MAXIMUM ของ SPEED อยู่ที่ 100Mbps ใช้ในระบบ RING, STAR และแบบผสม

3. UTP CAT5e CABLE คือสายทองแดงตีเกลี่ยวที่นำมาใช้ในระบบ LAN ที่มีความเร็วสูง MAXIMUM ของ SPEED อยู่ที่ 1Gbps

4.UTP CAT6 CABLE คือสายทองแดงตีเกลียวที่นำมาใช้ในระบบ LAN ที่มี MAXIMUM ของ SPEED อยู่ที่ 10Gbps BANWIDTH อยู่ที่ 250MHz

5. UTP CAT7 CABLE คือสายทองแดงตีเกลี่ยวที่นำมาใช้ในระบบ LAN ที่มีความเร็วสูง MAXIMUM ของ SPEED อยู่ที่ 10Gbps BANWIDTH อยู่ที่600 MHz

เหล่านี้คือสายที่นำมาใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในปัจจุบันที่นิยมใช้และนำมาใช้กันมากที่สุดก็คือ สาย CAT5e และ CAT6 เพราะในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังคงใช้ SWITCH ที่มีความเร็วอยู่ที่ 10/100/1000 Mbps ยังไม่มีใครที่ใช้เกินไปกว่านี้ อย่างเช่นส่วนใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมโรงงานและสถานที่บริการทั่วๆ ไปยังใช้ 10/100 Mbps และที่ใช้ 1 Gbps ก็จะเป็ฯหน่วยงานที่ต้องการความเร็วที่สูงและต้องการใช้ Aplication ที่เยอะ และความเที่ยงตรงสูงนั่นเอง เนื่องจาก File ที่ใช้งานจะมีขนาดใหญ่
แล้วข้อแต่ CAT5E กับ CAT6 เป็นอย่างไร
UTP CAT5e มี 2 แบบ ก็คือ แบบธรรมดา กับแบบที่มี shield ซึ่งโดยทั่วไปแล้วระยะของสายที่ใช้เดินนับจาก SWITCH ไปยังเครื่อง USER นั้น ระยะไม่เกิน 100 เมตร ข้อมูลลึกๆ สาย UTP มี Diameter อยู่ที่ 24 AWG มี 2 ลักษณธคือสายที่เป็นแบบอ่อนและแบบแข็ง ซึ่งเรียกแตกต่างกันคือ คือ SOLID กับ STAN ซึ่งการใช้งานนั้นสายอ่อนจะใช้ทำสาย PATCH CORD และสายแข็งไว้เดินไปยังจัดต่างๆ ที่อยู่ในที่ปกปิดเช่นผนัง ฝ้า ฯลฯ
UTP CAT6 มี 2 แบบ ก็คือ แบบธรรมดา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วระยะของสายที่ใช้เดินนับจาก SWITCH ไปยังเครื่อง USER นั้น ระยะไม่เกิน 100 เมตร ข้อมูลลึกๆ สาย UTP มี Diameter อยู่ที่ 23 AWG มี 2 ลักษณธคือสายที่เป็นแบบอ่อนและแบบแข็ง ซึ่งเรียกแตกต่างกันคือ คือ SOLID กับ STAN ซึ่งการใช้งานนั้นสายอ่อนจะใช้ทำสาย PATCH CORD และสายแข็งไว้เดินไปยังจัดต่างๆ ที่อยู่ในที่ปกปิดเช่นผนัง ฝ้า ฯลฯ
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลให้ทราบกัน แต่จริงๆแล้ว  เราเลือกใช้สาย CAT6 ทั้งหมดสำหรับเครื่อง Server และเครื่อง Main VPS Server เพื่อรองรับมาตรฐาน Internet 10Gbps ในเร็วๆนี้
ถ้าอยากได้ความเร็วเพิ่มขึ้นต้องใช้กับ  gigabit switch นะครับ และใช้ควบคู่กับสาย CAT6 จึงจะได้ความเสถียรครับ ลวดข้างในของ CAT6 จะเส้นใหญ่กว่า CAT5eหน่อย และควรใช้สายLanคุณภาพอย่างดียี่ห้อดังๆนะครับ เช่น Link หรือ AMP ถ้าใช้ยี่ห้อไม่ดีถ้าต่อสายยาวเกินซัก 20 เมตร ความเร็วจะตกจาก 1000 เหลือแค่ 100 นะครับ และการต่อสายส่งสัญญษณได้เต็มที่ไม่เกิน 100 เมตร (สาย CAT6 เป็นมาตรฐานของสายและหัวต่อที่เขาการันตีว่าได้ความเร็ว 1G เต็มในระยะ 100 เมตร) ส่วนสาย CAT5e เอามาใช้แทนทั้งสายและหัวต่อเข้ากับ Gigabit SW ก็จะได้ความเร็วเต็มเหมือนกันในระยะหนึ่ง แต่เมื่อยาวไประยะหนึ่งจะเจอปัญหา Loss หรือ Timeout ทำให้ความเร็วตกหรือ Delay ครับ ตรงนี้น่ากลัวกว่าลดความเร็วเหลือ 100M ซะอีก