การเลือกซื้อลำโพงไว้ใช้กับโน้ตบุ๊คหรือพีซี….เลือกอย่างไร ให้โดนใจที่สุด
ลำโพง หรือ Speaker?นั้น
เป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่สำคัญ
ซึ่งจะมอบความบันเทิงประเภทเสียงให้กับผู้ใช้งาน
ซึ่งผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลง รับชมภาพยนตร์ หรือเล่นเกมนั้น
จะต้องมีอุปกรณ์ชนิดนี้อยู่ด้วยเสมอ แต่ลำโพงก็มีหลายรุ่นมากมาย
แล้วจะเลือกอย่างไรดี บทความนี้มีคำตอบให้ครับรู้จักกับลำโพง – ลำโพงมีกี่ชนิดสำหรับลำโพงที่ใช้ต่อกับคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปนั้น จะแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ 4 ชนิด ดังนี้1. ลำโพงมัลติมีเดียสำหรับคอมพิวเตอร์ทั่วไป :
เป็นลำโพงธรรมดาที่มีแค่ลำโพงซ้าย-ขวา 2 ข้าง ซึ่งจะมีแจ๊คเสียบสีเขียวแบบ
3.5 ไว้เสียบเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ใช้งานได้ทันที ซึ่งในรุ่นที่ดีๆ
หน่อยจะมีเครื่องขยายเสียง (Amplifier) ในตัว
ซึ่งจะให้เสียงที่ดีกว่าแบบปกติ
เพราะซาวด์การ์ดจะส่งสัญญาณที่ยังไม่ถูกขยายมา ให้ตัวลำโพงทำหน้าที่นี้แทน
จึงไม่ถูกเสียงรบกวนจากอุปกรณ์อื่นๆ (Noise) ภายใน PC ติดมาด้วย2. ชุดลำโพงพร้อมซับวูฟเฟอร์ :
เป็นลำโพงแบบ 3 จุด หรือที่เรียกว่า 2.1 channel โดยจะแบ่งเป็น
ลำโพงแยกซ้าย-ขวา 2 ข้าง และลำโพงเสียงทุ้ม หรือ ซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer)
เพิ่มอีก 1 ตัว เพิ่มเสียงทุ้มให้กระหึ่มขึ้น โดยคนที่ชอบเล่นเกม
หรือหนังแอคชั่น คงจะคุ้นเคยดีกับเสียงระเบิดบรึ้มที่ดังสนั่นหวั่นไหว
ตัวซับวูฟเฟอร์ก็จะช่วยขึ้นเน้นในเสียงเหล่านี้ โดยชุดลำโพงชนิดนี้
กำลังเป็นที่นิยม เพราะราคาถูก เสียงดี ใช้เนื้อที่จัดวางไม่มาก
เหมาะสำหรับงานทุกประเภท เช่น ฟังเพลง ดูภาพยนตร์ เล่นเกม ฯลฯ3. ชุดลำโพงมัลติมีเดียแบบดิจิตอล :
เป็นชุดลำโพงที่รับสัญญาณเสียงแบบดิจิตอลจากพอร์ต USB
มาขยายเสียงที่ตัวของลำโพงโดยตรง ซึ่งข้อดีของลำโพงชนิดนี้
นอกจากจะได้สใญญาณเสียงที่ปราศจากเสียงรบกวนใดๆ แล้ว
ยังสามารถปรับสัญญาณเสียงจากซอร์ฟแวร์ของตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง
เช่น เสียงดัง-เบา, แหลม-ทุ้ม และแยกแชนเนลหรือถอดรหัสต่างๆ อย่าง Dolby
ที่ตัวลำโพงเองได้เลยเช่นกัน4. ชุดลำโพงระบบเสียงรอบทิศทาง :
เป็นชุดลำโพงที่ประกอบด้วยลำโพง 5-8 จุด เช่น ลำโพงระบบ 4.1 CH, 5.1 CH,
6.1 CH และ 7.1 CHประกอบด้วยตัวลำโพงที่วางรอบทิศทาง
ทั้งด้านหน้าและข้างหลังของผู้รับฟัง และซับวูฟเฟอร์อีก 1 จุด
สำหรับลำโพงชนิดนี้ก็ยังแบ่งออกเป็น 2
ประเภทอีกนั้นคือลำโพงแบบมีตัวถอดรหัส กับ ลำโพงแบบไม่มีตัวถอดรหัส
ซึ่งลำโพงแบบมีตัวถอดรหัสจะรองรับสัญญาณเสียงได้หลายแบบกว่า
ให้การแยกสัญญาณเสียงที่ดีกว่า เหมาะที่จะทำโฮมเธียเตอร์ขนาดย่อมๆ
ไว้ที่บ้านได้เลยทีเดียวการเลือกซื้อลำโพงสิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อลำโพงนั้น มีดังต่อไปนี้1. รูปแบบการใช้งาน :
หากแค่นำไปฟังเพลงทั่วไปยามพิมพ์งาน
ก็อาจจะเลือกใช้แค่ลำโพงมัลติมีเดียทั่วๆ ไป ที่ใช้งานง่าย ราคาถูก
แต่ถ้าเป็นผู้ที่ชื่นชอบการดูภาพยนตร์ เล่นเกม และฟังเพลงคุณภาพแบบ
Lostless แล้วก็อาจจะเลือกเป็นลำโพงคุณภาพดีขึ้นมาอย่าง
ชุดลำโพงแบบซับวูฟเฟอร์ หรือชุดลำโพงระบบเสียงรอบทิศทาง2. สถานที่จัดวาง :
หากบ้านเรามีเนื้อที่ไม่มาก หรืออยู่หอพัก
การเลือกลำโพงระบบเสียงรอบทิศทางก็อาจจะไม่เหมาะสมนัก
แถมการเดินสายเพื่อวางลำโพงในแต่ละจุดอาจเกิดอุปสรรคจากสิ่งของที่กีดขวาง
และลำโพงอาจอยู่ชิดกับผนังหรืออยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม
นอกจากจะทำให้เสียงไม่ดีเท่าที่ควรแล้ว ยังบั่นทอนอายุขัยของลำโพงลงอีกด้วย3. งบประมาณ :
แน่นอนที่สุดกับข้อนี้ครับ สำหรับลำโพงชุดที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า
ย่อมมีราคาแพงกว่าลำโพงมัลติมีเดียทั่วๆ ไป ก็ควรดูงบในกระเป๋า
และเลือกซื้อลำโพงโดยไม่ทำให้ตัวเองและคนรอบข้างเดือดร้อนครับ4. ระแวกใกล้เคียง :
เสียงที่ดังเกินไปอาจสร้างความเดือดร้อนให้แก่เพื่อนบ้านระแวกใกล้เคียง
ยิ่งถ้าอยู่ในหอพักแล้วอาจจะถึงขั้นเชิญออกจากที่อยู่อาศัยได้ศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับลำโพงระบบเสียง Mono :
ระบบเสียงแบบ 1 Channel เสียงที่ออกมาจะไม่มีมิติ ไม่มีมโนภาพ
คือทุกเสียงราบเรียบเท่ากันหมด
ไม่สามารถระบุต้นตอของเสียงนั้นว่ามาจากที่ใดระบบเสียง Stereo :
ระบบเสียงแบบ 2 Channel มักมาในรูปของลำโพงแยกซ้าย-ขวา ข้อดีของ Stereo
คือจะมีมิติของเสียง เช่น เราอาจจะได้ยินเสียงของนักร้องอยู่ตรงกลาง
เสียงกลองอยู่ซ้าย เสียงกีตาร์อยู่ขวา ทำให้มีความไพเราะมากยิ่งขึ้นระบบเสียง Dolby :
ระบบเสียงที่มีที่มาจากบริษัท DOLBY LABORATORIES Inc.
โดยมีการพัฒนาให้เสียงที่ออกมามีความคมชัด ไร้เสียงรบกวน และมีมิติจากระบบ
Surround รอบทิศทาง ตรงตามต้นฉบับ
เป็นมาตรฐานเสียงที่ใช้กันทั่วไปตามโรงภาพยนตร์กำลังขับ หรือกำลังขยายของลำโพง :
คือความสามารถของลำโพงว่าสามารถสร้างเสียงได้สูงสุดเท่าไหร่
โดยมักใช้ค่ามาตรฐานระบบ RMS ในการคำนวน มีหน่วยเป็นวัตต์ (Watt)
โดยยิ่งมีวัตต์มาก ก็จะให้เสียงที่ดังกระหึ่มมากยิ่งขึ้นทั้ง
หมดนี้ก็เป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับผู้ที่กำลังเลือกซื้อลำโพงครับ
ทั้งนี้ก่อนที่จะตัดสินใจ ก็ควรที่จะให้พนักงานขายเปิดลองฟังดูเสียก่อน
เพราะในแต่ละคนก็ชื่นชอบในน้ำเสียงที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบเสียงนุ่มๆ
บางคนชอบเบสหนักๆ ก็เลือกสรรกันตามใจชอบครับ
และเมื่อได้ลำโพงที่ถูกใจมาใช้งานแล้ว ก็ไม่ควรปรับเสียงให้ดังเกินไป
เพื่อสุขภาพทางด้านการรับฟังของผู้ใช้งานนั่นเองครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น